อบรม การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective warehouse and inventory management)

อบรม อบรม การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective warehouse and inventory management)

ขอเชิญอบรม หลักสูตร อบรม การจัดการคลังสินค้าและควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective warehouse and inventory management)
- รอบที่ 1 วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 2 วันที่ 19 มิถุนายน 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 3 วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 4 วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 5 วันที่ 23 กันยายน 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 6 วันที่ 16 ตุลาคม 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 7 วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
- รอบที่ 8 วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เวลา 09:00 - 16:00 น
สอนโดยอนันต์ ดีโรจนวงศ์
ราคา 3900 บาท

          การจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management) เป็นการจัดการในการรับ การตรวจสอบและตรวจนับ การจัดเก็บสินค้าและวัตถุดิบได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องในส่วนขาเข้า (inbound) รวมถึง การหยิบสินค้า ตรวจสอบ และจัดส่งสินค้าให้ผู้รับเพื่อกิจกรรมการขายตามคำสั่งซื้อของลูกค้าในส่วนขาออก (Outbound) เป้าหมายหลักในการบริหารและดำเนินการจัดการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้าก็เพื่อให้เกิดระบบที่ดี มีประสิทธิภาพและคุ้มกับการลงทุน รวมถึงการควบคุมคุณภาพของการเก็บ การหยิบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การป้องกันและลดการสูญเสียจากการดำเนินงานเพื่อให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำที่สุด เพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า และการใช้ประโยชน์เต็มที่จากพื้นที่คลังสินค้า การจัดการคลังสินค้าจึงนับเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่งในโซ่อุปทาน

          การควบคุมสินค้าคงคลัง (Inventory Control) สินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์ในการสร้างความสมดุลในซัพพลายเชน เพื่อให้ระดับสินค้าคงคลังต่ำสุด โดยไม่กระทบต่อระดับการให้บริการ โดยปัจจัยนำเข้าของกระบวนการผลิตที่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ วัตถุดิบ ชิ้นส่วนและวัสดุต่าง ๆ ที่เรียกรวมกันว่าสินค้าคงคลัง  ต้นทุนสินค้าคงคลังเป็นต้นทุนการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนั้นการจัดการสินค้าคงคลังมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่สามารถมีสินค้าคงคลังบริการลูกค้าในปริมาณที่เพียงพอ และทันต่อการความต้องการของลูกค้าเสมอ เพื่อสร้างยอดขายและรักษาระดับของส่วนแบ่งตลาดไว้โดยสามารถลดระดับการลงทุนในสินค้าคงคลังต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงด้วย

          ดังนั้นการจัดการคลังสินค้าและการควบคุมสินค้าคงคลังจึงเป็นสิ่งจำเป็นและต้องทำร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสามารถป้อนวัตถุดิบให้กับสายการผลิตได้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตและส่งมอบสินค้าได้ทันตามเป้าหมายที่กำหนด ในขณะที่คลังสินค้ามีปริมาณสินค้าวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ไม่มากและน้อยจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาด้านการผลิตซึ่งจะทำให้ต้นทุนการจัดเก็บสินค้าคงคลังต่ำอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ผลดำเนินการทางธุรกิจดีขึ้น พนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีกำไรมากขึ้น สามารถผลิตสินค้าได้รวดเร็วและเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่คลังสินค้าขนาดใหญ่อีกต่อไป รวมถึงปัญหาการดำเนินการต่างๆภายในคลังสินค้าลดลง

วัตถุประสงค์

1. เพื่อสามารถบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถควบคุมและเพิ่มความรวดเร็วในการการทำกิจกรรมต่าง ๆภายในคลังสินค้า

2. เพื่อลดต้นทุนและพื้นที่การจัดการปริมาณสินค้าคงคลังจำนวนมาก

3. เพื่อสามารถจัดเก็บสินค้าหรือวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสมตามปริมาณที่ลูกค้าต้องการ

4. เพื่อสามารถทราบข้อมูลสินค้าคงคลังได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และครบถ้วน เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

5. เพื่อเพิ่มรอบการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังได้มากขึ้น สามารถจัดเก็บสินค้าได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มพื้นที่คลังสินค้า


หัวข้ออบรม

1. การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

          -  การบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆในคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

          -  การจัดพื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ การวางผังของคลังสินค้าและการจัดการการไหล                

          -  การวัดผลการปฏิบัติงานของคลังสินค้า

          -  การวัดอัตรารอบการหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)

2. การควบคุมสินค้าคงคลังอย่างมืออาชีพ

          -  การจัดการและบริหารต้นทุนสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ

          -  Economic Order Quantity (EOQ) การสั่งซื้อที่ประหยัด

          -  การกำหนดค่า Safety Stock และจุดการสั่งซื้อซ้ำ (Re-order Point) ที่เหมาะสม

3. การแบ่งกลุ่มสินค้าคงคลังแบบ ABC

          -  การตรวจนับสินค้าตามรอบระยะเวลา (Cycle Count inventory)

          -  วิธีการตรวจนับสินค้าด้วยระบบ Stock Card

          -  การแบ่งกลุ่มสินค้าตามหลักการ Pareto

          -  การกำหนดปริมาณสินค้าคงคลัง Type A, B และ C

4. เครื่องมือและเทคโนโลยีการจัดการคลังสินค้า

          -  การใช้ Barcode & RFID ในการบ่งบอกสินค้า

          -  การใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System)

5. กรณีศึกษา การลดต้นทุนการดำเนินงานคลังสินค้าอย่างได้ผล

          -  การใช้ระบบ Pick face เพื่อการหยิบสินค้า

 
วิธีการสัมมนา    
           - การบรรยาย และพูดคุย

กำลังรอยืนยันสถานที่

โปรโมชั่นสำหรับองค์กร หลักสูตรนี้ สามารถจัดเป็น inhouse แบบ Zoom หรือ Onsite ได้ในราคาไม่แพง แต่สามารถเข้าฟังได้จำนวนมาก ประหยัดค่าใช้จ่าย
สามารถติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่ สัมมนาดีดี 0944896364 / 0974746644 หรืออีเมล์ cs@seminardd.com
สัมมนาดีดี รับจัดหลักสูตรอื่นๆ สำหรับองค์กร ด้วยวิทยากรคุณภาพ ราคาประหยัด ติดต่อเราได้เลยคะ ยินดีให้บริการ

จัดโดย SeminarDD Academy

โทร 097-474-6644 (ผู้จัดงาน)