หลักสูตร
เทคนิคการเจรจาเพื่อติดตามหนี้และกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงหนี้
วิทยากร
อาจารย์องอาจ ฉันทสมบัติ
ผู้จัดการ ฝ่ายสินเชื่อ
และกฎหมาย (CREDIT ANDLEGAL MANAGER)
บริษัท ยูโร พีทูพี ไดเรคท์ (ประเทศไทย)
จำกัด
เขียนบทความพิเศษในวารสารภาษีบัญชีและกฎหมายธุรกิจ
"ทำอย่างไรไม่ให้เกิดหนี้เสีย
จัดการอย่างไรกับหนี้ที่มีปัญหา"
เขียนหนังสือ
เรื่อง"กลยุทธ์การกระชากหนี้"
ประสบการณ์บรรยาย หลักสูตรการเร่งรัดหนี้สินและการเจรจาต่อรองเพื่อติดตามหนี้ 29 ปี
วันที่
10 พฤษภาคม 2566
เวลา 09.00-16.00 น.
St.James Hotel ซอยสุขุมวิท
26 ใกล้ BTS พร้อมพงษ์ กรุงเทพฯ
** สถานที่อาจมีการเปลี่ยนแปลง
หลักการและเหตุผล
พนักงานติดตามหนี้มีส่วนสำคัญต่อความอยู่รอดขององค์กรหากการติดตามหนี้ไม่มีประสิทธิภาพและติดตามหนี้คืนไม่ได้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และหนี้เสียจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดหนี้เสีย การติดตามหนี้ต้องใช้ทั้งทักษะและประสบการณ์
สิ่งที่พนักงานติดตามหนี้พบอยู่เสมอ คือ
ลูกหนี้ชอบหาเหตุมาอ้างและไม่ยอมชำระหนี้หรือติดต่อลูกหนี้ยาก (ไม่ยอมรับโทรศัพท์)
ในบางกรณีลูกหนี้อาจจะยอมรับโทรศัพท์แต่จะบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้เมื่อพบปัญหาเหล่านี้ต้องหาวิธีรับมือและแก้ไขปัญหา“ทำอย่างไรให้ลูกหนี้ยอมเจรจาและยอมชำระหนี้”รวมถึงการใช้คำพูดและน้ำเสียงเพื่อจูงใจหรือเพื่อกดดันให้ลูกหนี้ยอมชำระหนี้ตามเงื่อนไขในสัญญาฯ
การเรียนรู้และนำทักษะการเร่งรัดหนี้สินมาใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมต้องนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ได้รับการชำระหนี้จากลูกหนี้กลับคืนมาได้มากที่สุด
หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมทราบถึงกฎระเบียบและข้อบังคับในการติดตามหนี้ที่ถูกต้องและวิธีการใช้คำพูดกับลูกหนี้โดยนำทักษะการเจรจาต่อรอง
(NEGOTIATIONSKILLS) มาประยุกต์ใช้กับลูกหนี้ในแต่ละประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักเกณฑ์ต่างๆที่นำมาใช้ผู้เข้าฝึกอบรมจะสามารถนำจุดแข็งไปใช้และในบางครั้งหากเกิดข้อโต้แย้งจากลูกหนี้หรือพบปัญหาเฉพาะหน้า
ต้องใช้ทักษะในการเจรจาเพื่อแก้ไขสถานการณ์โดยไม่เปิดช่องว่างหรือเปิดจุดอ่อนให้ลูกหนี้นำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อบ่ายเบี่ยงการชำระหนี้ในภายหลัง
ดังนั้นหลักสูตร “เทคนิคการเจรจาเพื่อติดตามหนี้และกฎหมาย พ.ร.บ.ทวงหนี้ ”จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมสามารถเรียนรู้และนำทักษะต่างๆจากการเรียนรู้นี้ไปใช้แก้ปัญหาและเรียกเก็บเงินได้อย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นประสบการณ์จะส่งผลให้การจัดเก็บหนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ธุรกิจมีสภาพคล่อง และ มีกำไรโดยที่จะ”ได้ทั้งเงิน และได้ทั้งใจลูกหนี้”
วัตถุประสงค์
1.
เพื่อให้การติดตามหนี้ได้มากขึ้นและมีผลงานทางด้านจัดเก็บหนี้สูงขึ้น
2.
เพื่อพัฒนาบุคคลากร ให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำทักษะจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.
เพื่อลดเวลาและลดต้นทุนในการติดตามหนี้ให้น้อยลง
หัวขัอการอบรม
1.
ปัญหาที่ทำให้การเก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้มักเกิดจาก ?
2. บทบาท และหน้าที่ & คุณสมบัติ
ของพนักงานเร่งรัดฯ
3.
ทักษะการใช้โทรศัพท์ทวงหนี้
- การเตรียมพร้อม
ก่อนจะโทรศัพท์ทวงหนี้
- ลักษณะของเสียง และสไตล์ของน้ำน้ำเสียง
- คำพูด ,น้ำสียง,ภาษากาย
สามารถบอกอะไรได้บ้าง
4.
ศิลปะในการสนทนาเพื่อรับมือกับลูกหนี้ 6 ประเภท
5. การเจรจาต่อรอง ( ความหมาย
“ การเจรจาต่อรอง ” )
6. อำนาจในการต่อรอง
7.
ทางเลือกที่จะนำมาใช้แก้ความขัดแย้ง
8. เวทีการเจรจาต่อรอง
( Bargaining Arena
)
9.
กลยุทธ์สำคัญในการเจรจาต่อรองเพื่อติดตามหนี้ มี 6 ขั้นตอน
10.
ข้อเสนอแนะนักเจรจาหนี้ 3 ประการ
11. กฏหมาย
ที่ต้องทราบเกี่ยวกับการตามหนี้
12. หนี้ที่บังคับได้ /
หนี้ที่บังคับไม่ได้
13. พ.ร.บ. การติดตามทวงถามหนี้ ที่เป็นธรรม ( ข้อปฏิบัติ / ข้อห้าม )
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการฝึกอบรมหลักสูตรนี้:-
1.
ทราบหลักการการใช้คำพูดอย่างไรจึงจะทำให้ลูกค้ายอมชำระหนี้
2.
สามารถนำทักษะการเจรจาต่อรองมาใช้กับลูกค้าโดย“เราเก็บเงินได้และลูกค้ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเรา”
3.
สามารถนำจุดแข็งไปใช้และไม่เปิดจุดอ่อนให้ลูกค้าใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ชำระหนี้
จัดโดย บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จํากัด
โทร 0863183151 (บริษัท ไฮโพ เทรนนิ่ง แอนด์ คอนเซ้าท์แทนซี่ จํากัด)